17 ส.ค. 2556

คำบาลี – สันสกฤต

   ภาษาบาลีและสันสกฤต
ภาษาบาลีและสันสกฤตอยู่ในตระกูลภาษาที่มีวิภัตปัจจัย คือเป็นภาษาที่ที่มีคำเดิมเป็นคำธาตุ เมื่อจะใช้คำใดจะต้องนำธาตุไปประกอบกับปัจจัยและวิภัตติ เพื่อเป็นเครื่องหมายบอกพจน์ เช่น ลึงค์ บุรุษ กาล มาลา วาจก
  โครงสร้างของภาษา ประกอบด้วย ระบบเสียง หน่วยคำ และระบบโครงสร้างของประโยค ภาษาบาลีและสันสกฤตมีหน่วยเสียง 2 ประเภท คือ หน่วยเสียงสระและหน่วยเสียงพยัญชนะ ดังนี้
1.หน่วยเสียงสระ  หน่วยเสียงสระภาษาบาลีมี 8 หน่วยเสียง คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ
·         หน่วยเสียงภาษาสันสกฤต ตรงกับภาษาบาลี 8 หน่วยเสียง และต่างจากภาษาบาลีอีก 6 หน่วยเสียง เป็น 14 หน่วยเสียง คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ไอ เอา ฤ ฤา ฦ ฦๅ
2.หน่วยเสียงพยัญชนะ หน่วยเสียงพยัญชนะภาษาบาลีมี 33 หน่วยเสียง
·         หน่วยเสียงภาษาสันสกฤตมี 35 หน่วยเสียง เพิ่มหน่วยเสียง ศ ษ ซึ่งหน่วยเสียงพยัญชนะทั้งสิ้นภาษานี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ พยัญชนะวรรค และพยัญชนะเศษวรรค
·         วิธีสังเกตคำบาลี
 1. สังเกตจากพยัญชนะ ตัวสะกด และตัวตาม
·         ตัวสะกด คือ พยัญชนะที่ประกอบอยู่ข้างท้ายสระ ประสมกับสระและพยัญชนะต้น เช่น ทุกข์
·         ตัวตาม คือ ตัวที่ตามหลังตัวสะกด เช่น  สัตย  สัจจ  ทุกข  เป็นต้น 
คำในภาษาบาลีจะต้องมีสะกดและตัวตามเสมอ โดยดูจากพยัญชนะบาลี มี 33 ตัว แบ่งออกเป็นวรรคดังนี้
แถวที่
1
2
3
4
5
วรรค กะ
วรรค จะ
วรรค ฏะ
วรรค ตะ
วรรค ปะ
เศษวรรค
ย ร
ล ว
ส ห
ฬ อัง

2. สังเกตจากพยัญชนะ จะมีใช้ในภาษาบาลีในไทยเท่านั้น เช่น จุฬา ครุฬ
 อาสาฬห์  วิฬาร์  โอฬาร์  พาฬ  เป็นต้นมีหลักสังเกต ดังนี้

ก. พยัญชนะตัวที่ 1 , 3 , 5 เป็นตัวสะกดได้เท่านั้น (ต้องอยู่ในวรรคเดียวกัน)
ข. ถ้าพยัญชนะตัวที่ 1 สะกด ตัวที่ 1 หรือตัวที่ 2 เป็นตัวตามได้ เช่น สักกะ ทุกข สัจจ ปัจฉิม สัตต หัตถ บุปผา เป็นต้น
ค. ถ้าพยัญชนะตัวที่ สะกด ตัวที่ 3 หรือ 4 เป็นตัวตามได้ในวรรคเดียวกัน เช่น อัคคี พยัคฆ์ วิชชา อัชฌา พุทธ คพภ(ครรภ์)
ง. ถ้าพยัญชนะตัวที่  5  สะกดทุกตัวในวรรคเดียวกันตามได้ เช่น องค์ สังข์ องค์ สงฆ์ สัมปทาน สัมผัส สัมพันธ์ สมภาร เป็นต้น
จ. พยัญชนะบาลี ตัวสะกดตัวตามจะอยู่ในวรรคเดียวกันเท่านั้นจะข้ามไปวรรคอื่นไม่ได้


แบบทดสอบที่ ๖

๑.ภาษาบาลีและสันสกฤต มีหน่วยเสียงสองประเภทคือ?
ก.หน่วยเสียงสระ-หน่วยเสียงพยัญชนะ      ข.หน่วยเสียงสระ-หน่วยเสียงวรรณยุกต์
ค.หน่วยเสียงวรรณยุกต์-หน่วยเสียงพยัญชนะ     ง.หน่วยเสียงนำ-หน่วยเสียงตาม
#ก.#
๒.ข้อใดจัดเป็นวิธีสังเกตคำบาลี?
ก.สังเกตจากพยัญชนะ ตัวสะกด และตัวตาม ข.สังเกตจากพยัญชนะ 
ค.ถูกเฉพาะข้อ ข.                         ง.ถูกทั้งข้อก. และ ข.
#ง.#
๓พยัญชนะบาลีมีกี่ตัว? และแบ่งออกเป็นกี่วรรค?
ก.๓๓ ตัว ๕ วรรค                         ข.๓๔ ตัว ๕ วรรค
ค.๓๓ ตัว ๖ วรรค                         ง.๓๔ ตัว ๖ วรรค
#ค.#
๔.ข้อใดจัดเป็นคำสันสกฤต?
ก.วิเศษ                                   ข.สัตย    

ค.ปัจฉิม                                  ง.บุปผา
#ก.#

คำสมาส–คำสนธิ

   คำสมาส - การย่นนามศัพท์ตั้งแต่สองคำขึ้นไปให้เป็นคำเดียวในภาษาบาลีและสันสกฤต การสร้างคำสมาสในภาษาไทยได้แบบอย่างมาจากภาษาบาลีและสันสกฤต โดยนำคำบาลี-สันสกฤตตั้งแต่ 2 คำมาต่อกันหรือรวมกัน
ลักษณะของคำสมาสเป็นดังนี้
  1. เป็นคำที่มาจากภาษาบาลี-สันสกฤตเท่านั้น คำที่มาจากภาษาอื่นๆ นำมาประสมกันไม่นับเป็นคำสมาส  ตัวอย่างคำสมาส 
บาลี + บาลี เช่น อัคคีภัย วาตภัย โจรภัย อริยสัจ ขัตติยมานะ 
สันสกฤต + สันสกฤต เช่น แพทยศาสตร์ วีรบุรุษ วีรสตรี สังคมวิทยา 
บาลี + สันสกฤต, สันสกฤต + บาลี เช่น หัตถศึกษา นาฎศิลป์ สัจธรรม 
  2. คำที่รวมกันแล้วไม่เปลี่ยนแปลงรูปคำแต่อย่างใด เช่น
วัฒน + ธรรม  =   วัฒนธรรม       
สาร + คดี      =   สารคดี
พิพิธ + ภัณฑ์   =   พิพิธภัณฑ์ 

กาฬ + ปักษ์    =   กาฬปักษ์
ทิพย + เนตร   =   ทิพยเนตร 

โลก + บาล     =   โลกบาล
เสรี + ภาพ     =   เสรีภาพ 
             

สังฆ + นายก   =   สังฆนายก
  3. คำสมาสเมื่อออกเสียงต้องต่อเนื่องกัน เช่น
ภูมิศาสตร์  อ่านว่า พู-มิ-สาด             
เกียรติประวัติ อ่านว่า เกียด-ติ-ประ-หวัด
เศรษฐการ  อ่านว่า เสด-ถะ-กาน          
รัฐมนตรี  อ่านว่า รัด-ถะ-มน-ตรี
  4. คำที่นำมาสมาสกันแล้วความหมายหลักอยู่ที่คำหลังส่วนความรองจะอยู่ข้างหน้า เช่น
ยุทธ (รบ)+ภูมิ (แผ่นดิน  สนาม) = ยุทธภูมิ  (สนามรบ)
หัตถ (มือ) + กรรม (การงาน)   = หัตถกรรม  (งานฝีมือ)
คุรุ (ครู) + ศาสตร์ (วิชา)      =   คุรุศาสตร์  (วิชาครู)
สุนทร (งาม  ไพเราะ) + พจน์ (คำกล่าว) =   สุนทรพจน์  (คำกล่าวที่ไพเราะ)
  5. คำสมาสบางคำเรียงลำดับคำอย่างไทย คือ เรียงต้นศัพท์ไว้หน้า ศัพท์ประกอบไว้หลัง การเขียนคำสมาสเหล่านี้ไม่ประวิสรรชนีย์ระหว่างคำ แต่เมื่ออ่านจะออกเสียงสระต่อเนื่องกัน เช่น 
บุตรภรรยา (บุด-ตระ-พัน-ระ-ยา) = บุตรและภรรยา
  6. คำสมาสส่วนมากออกเสียงสระตรงพยางค์ท้ายของคำหน้
เช่น       กาลสมัย ( กาน- ละ สะ -ไหม )
  7. คำบาลีสันสกฤตที่มีคำว่าพระที่แผลงมาจากวรประกอบข้างหน้าจัดเป็นคำสมาสด้วย เช่น พระโอรส  พระอรหันต์
  8. คำสมาสบางพวกจะมีลักษณะรูปคำรูปหนึ่งคล้ายกัน  เช่น   
-  คำที่ลงท้ายด้วยศาสตร์ เช่น นิติศาสตร์  อักษรศาสตร์ 
คำที่ลงท้ายด้วยภัย เช่น อุทกภัย  วาตภัย   อัคคีภัย
-  คำที่ลงท้ายด้วยกรรม เช่น นิติกรรม  นวัตกรรม  กสิกรรม
  คำสนธิ -คำสนธิในภาษาไทย หมายถึง คำที่มาจากภาษาบาลี สันสกฤตมาเชื่อมต่อกัน ทำให้เสียงพยางค์หลังของคำแรกกลมกลืนกันกับเสียงพยางค์แรกของคำหลัง
1. สระสนธิ คือ การกลมกลืนคำด้วยเสียงสระ เช่น
วิทย+อาลัย    =   วิทยาลัย      พุทธ+อานุภาพ  =   พุทธานุภาพ
มหา+อรรณพ  =   มหรรณพ     นาค+อินทร์    =   นาคินทร์
มัคค+อุเทศก์   =   มัคคุเทศก์    พุทธ+โอวาท    =   พุทโธวาท
รังสี+โอภาส    =   รังสิโยภาส   ธนู+อาคม     =   ธันวาคม
2. พยัญชนะสนธิ เป็นการกลมกลืนเสียงระหว่างพยัญชนะกับพยัญชนะ ซึ่งไม่ค่อยมีใช้ในภาษาไทย เช่น     รหสฺ + ฐาน =  รโหฐาน    มนสฺ + ภาว = มโนภาว  (มโนภาพ)
ทุสฺ + ชน  =  ทุรชน      นิสฺ + ภย  =  นิรภัย
3. นฤคหิตสนธิ ได้แก่ การเชื่อมคำที่ขึ้นต้นด้วยนฤคหิต หรือพยางค์ท้ายของคำหน้าเป็นนฤคหิตกับคำอื่นๆ เช่น
สํ + อุทัย     =   สมุทัย           สํ + อาคม   =   สมาคม
สํ + ขาร      =   สังขาร           สํ + คม      =   สังคม
สํ + หาร     =   สังหาร           สํ + วร       =    สังวร



แบบทดสอบที่ ๕

๑.“วัฒนธรรม” คือคำใดบวกกับคำใด?
ก.วัฒน์+ธรรม                ข.วัฒน+ธรรม
ค.วัฒน+อธรรม               ง.วัฒ+นธรรม
#ข.วัฒน+ธรรม#
๒.ข้อใดจัดเป็นคำสระสนธิ?
ก.มหรรณพ                   ข.วิทยาลัย
ค.ธันวาคม                   ง.ถูกทุกข้อ
#ง.ถูกทุกข้อ#
๓.ข้อใดจัดเป็นคำพยัญชนะสนธิ?
ก.มัคคุเทศก์                   ข.พุทธานุภาพ
ค.มหรรณพ                    ง.ทุรชน
#ง.ทุรชน#
๔.ข้อใดจัดว่าไม่ใช่คำนฤคหิตสนธิ?
ก.สมุทัย                      ข.สังขาร
ค.สังหาร                      ง.ผิดทุกข้อ
#ง.ผิดทุกข้อ#

คำเป็น คำตาย


 คำเป็น หมายถึง คำหรือพยางค์ในภาษาไทยที่มีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
·         คำหรือพยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงยาวในแม่ ก กา เช่น มา นี มี ตา มา ดู ปู ฯลฯ
·         คำหรือพยางค์ที่มีตัวสะกดในแม่ กง กน กม เกย เกอว เช่น กลาง คืน ลืม เลย เชียว ฯลฯ
·         คำหรือพยางค์ที่ประสมด้วยสระ อำ ใอ ไอ เอา เช่น ทำ ใจ ไป เอา ฯลฯ
 คำตาย หมายถึง คำหรือพยางค์ในภาษาไทยที่มีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
·         คำหรือพยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงสั้นในแม่ ก กา แต่ยกเว้นสระอำ ไอ ใอ เอา เช่น สุ จิ ปุ ลิ ฯลฯ
·         คำหรือพยางค์ที่มีตัวสะกดในแม่ กก กด กบ เช่น ยก ทัพ ตัด บท ฯลฯ
 คำครุ-คำลหุ
 ครุ (เอก) คือ พยางค์ที่มีเสียงหนัก ได้แก่ พยางค์ที่ประกอบด้วยสระเสียงยาว (ทีฆสระ) และ สระเกินทั้ง 4 คือ สระอำ ใอ ไอ เอา และพยางค์ที่มีตัวสะกดทั้งสิ้น เช่น ตา ดำ หัด เรียน ฯลฯ
 ครุ (เสียงหนัก) เป็นพยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงยาวในมาตราแม่ ก.กา และมีตัวสะกดรวมทั้งประสมด้วยสระอำ ไอ ใอ เอา เช่น จำ ได้ ไป เขา รัก ลูก 
 คำครุ แปลว่า เสียงหนัก ประกอบด้วย
·         พยางค์ที่มีสระเสียงยาวไม่มีตัวสะกด เช่น มาหา พารา
·         พยางค์ที่มีตัวสะกดทั้ง 8 แม่ เช่น รัก ชิด ชอบ ฯลฯ
·         พยางค์ที่มีสระ อำ ไอ ใอ เอา เช่น เรา จำ ใจ ไป
 ลหุ (โท) คือ พยางค์ที่มีเสียงเบา ได้แก่พยางค์ที่ประกอบด้วยสระสั้น(รัสสระ) ที่ไม่มีตัวสะกด เช่น พระ จะ มิ ดุ แกะ ฯลฯ
 ลหุ (เสียงเบา) คำที่มีเสียงเบาเป็นพยางค์ที่ประสมด้วยสระเสียงสั้น เช่น จะ ดุ ติ ผิว กระทะ 
 คำลหุ แปลว่า เสียงเบา ประกอบด้วย
 
·         พยางค์ที่มีสระเสียงสั้นไม่มีตัวสะกด เช่น มะลิ ชิชะ ก็ เถอะ
·         พยางค์ที่มีตัวพยัญชนะตัวเดียว เช่น ณ บ ธ
   เอก คือ พยางค์หรือคำที่มีรูปวรรณยุกต์เอก และบรรดาคำตายทั้งสิ้น ซึ่งในโคลง และร่าย ใช้เอกแทนได้ เช่น พ่อ แม่ พี่ ปู่ ชิ ชะ มัก มาก ฯลฯ
   โท คือ พยางค์หรือคำที่มีรูปวรรณยุกต์โท เช่น น้า ป้า ช้าง นี้น้อง ต้อง เลี้ยว ฯลฯ
   เอก-โท ที่บังคับด้วยรูปวรรณยุกต์ เอก โท นิยมใช้กับคำประพันธ์ประเภทร่าย โคลง


แบบทดสอบที่ ๔

๑.ข้อใดจัดเป็นคำเป็น?
ก.แมว                        ข.โอบ
ค.ซบ                         ง.โคตร
#ก.แมว#
๒.ข้อใดจัดเป็นคำตาย?
ก.เขียว                        ข.เย้ย
ค.เห็น                        ง.สัก
#ง.สัก#
๓.ข้อใดไม่ได้หมายถึงคำครุ?
ก.พยางค์ที่มีเสียงหนัก          ข.สระเกินทั้ง 4 คือ สระอำ ใอ ไอ เอา
ค.พยางค์ที่มีตัวสะกดทั้งสิ้น     ง.ผิดทุกข้อที่กล่าวมา
#ง.ผิดทุกข้อที่กล่าวมา#
๔.ข้อใดไม่ได้หมายถึงคำลหุ?
ก.พยางค์ที่มีเสียงหนัก          ข.ลหุเสียงเบา
ค.พระ จะ มิ ดุ แกะ                 ง.ไม่มีข้อใดถูก
#ก.พยางค์ที่มีเสียงหนัก#
Flag Counter